หลายๆ พฤติกรรมในการใช้ชีวิตที่คุณปฏิบัติกันอย่างเคยชิน คุณอาจไม่คาดคิดว่ามันก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราได้เหมือนกัน อย่างเช่นเรื่องง่ายๆอย่างการเดิน ยืน นั่ง นอน หรือเเม้เเต่หิ้วของ หากคุณปฏิบัติมันอย่างผิดวิธีหรือไม่ถูกต้องพฤติกรรมเหล่านี้ก็จะกลายเป็นการทำร้ายบุคลิกภาพเเละเเย่ที่สุดก็คือ ทำร้ายสุขภาพของเรานี่ล่ะค่ะ เเล้วสงสัยกันใช่ไหมล่ะค่ะว่า เรื่องบุคลิกภาพกับสุขภาพเกี่ยวข้องกันอย่างไร ข้อมูลที่น่าสนใจระบุว่า คนเราจะมีอารมณ์ที่ดีขึ้นได้เพียงเเค่คุณนั่งหลังตรง เเละมันยังเกี่ยวข้องกับความกระตือรือล้น ความเข้มเเข็ง ในขณะที่ผู้ที่อยู่ในบุคลิกไม่ดีนั้นจะทำให้เกิดความรู้สึกหวาดกลัว รู้สึกไม่เป็นมิตร เกิดความวิตกกังวล เบื่อหน่าย เฉื่อยชา เเละพาลให้คุณรู้สึกง่วงหรือเซื่องซึมอยู่ตลอดเวลานั่นเองค่ะ เเต่ถึงอย่างไรเรื่องเเบบนี้มันก็สามารถปรับเปลี่ยนกันได้ ลองตามเราไปดูพฤติกรรมเเต่ละอย่างกับผลกระทบต่อสุขภาพที่คุณอาจคาดไม่ถึงว่ามันอาจจะเกิดขึ้นได้ หรือเเม้กระทั่งกับตัวของคุณเองก็ตามค่ะ
การเดิน
เพราะพฤติกรรมการเดินส่งผลต่อบุคลิกภาพนอกอย่างเด่นชัด สำหรับใครหลายคนเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก นั่นก็เนื่องจากบุคลิกการเดินของเเต่ละคนนั้นเเตกต่างกันออกไป โดยส่วนใหญ่อาจมาจากพฤติกรรมการเดินเเบบเคยชิน บวกกับความเเข็งเเรงของกล้ามเนื้อเเละความมั่นคงของข้อต่อสะโพก กระดูกเชิงกราน หลังเเละหากคุณเดินผิดท่าเป็นเวลาต่อเนื่องยาวนาน สะโพกก็จะเกิดอาการบิดหมุน ทำให้ขาผิดรูป ข้อเสื่อม เสี่ยงต่อการเคลื่อนของข้อสะโพก เเละส่งผลกระทบโดยตรงต่อกระดูกสันหลังนั่นเองค่ะ
การยืน
สำหรับการยืนหลายคนมักมองข้าม เพราะมองว่าเราจะยืนเเบบไหนก็ได้ เเต่ช้าก่อนค่ะ การยืนเเบบผิดท่าก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เหมือนกัน ยิ่งหากเป็นผู้ที่ต้องยืนทำงานเป็นเวลานานๆ มักเกิดอาการปวดเข่า ปวดหลัง ฯลฯ เเละหากใส่รองเท้าที่ผิดก็จะเกิดเเรงกระทำต่อข้อต่อของข้อเท้า ข้อเข่าอาจส่งผลถึงคอ ทำให้คอเสื่อม กระดูกทับเส้นประสาท ปวดศีรษะอย่างรุนเเรง ซึ่งต้นเหตุของอากาเหล่านี้อาจมาจากการยืนเเล้วลงน้ำหนักขาทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน ทำให้เกิดความไม่สมดุลซึ่งจะทำให้สะโพกบิด เเละส่งกระทบต่อเนื่องไปถึงกระดูกสันหลังเลยล่ะค่ะ
การนั่ง
การนั่ง นี่ล่ะค่ะ อีกหนึ่งเรื่องที่มักจะเกิดปัญหาอยู่บ่อยครั้ง เเละดูเหมือนว่าผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็มักจะเป็นคนทำงาน ที่ต้องนั่งทำงานอยู่บนโต๊ะยาวนานตลอดทั้งวัน เเละหากใครที่กำลังนั่งทำงานเเบบหลังค่อมอยู่ล่ะค่ะ รีบสปริงตัวเลยเดี๋ยวนี้เลยค่ะ เพราะการนั่งหลังค่อม เมื่อหลังส่วนบนบริเวณสะบักค่อมจะทำให้หลังส่วนล่างค่อม หรือปูดออกมาทางด้านหลังมากขึ้น ทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังมีเเรงกดเพิ่มขึ้น เเละมีโอกาสที่จะปลิ้นไปข้างหลังมากขึ้น เนื่องจากเนื้อเยื่อด้านหลังถูกยึดให้หย่อนเป็นระยะเวลานาน เละทราบหรือไม่ค่ะว่า เกือบ 90% ของคนวัยทำงานมักอยู่ในท่านั่งต่อเนื่องยาวนานหลายชั่วโมงใน 1 วัน ทั้งการนั่งขับรถ นั่งทำงานกับคอมพิวเตอร์ ฯลฯ หรือกิจวัตรเหล่านี้ก็มักจะทำให้เกิดความเคยชิน เเม้ว่าคุณจะรู้สึกสบายเเต่มันนคือท่านั่งที่ผิด ทั้งยังส่งผลเสียต่อระบบโครงสร้างร่างกายอย่างรุนเเรง เเละอาจนำไปสู่โรคอื่นๆ เช่น โรคปวดหลัง ปวดคอ หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท กล้ามเนื้อเเขน ขาไม่มีเเรง ชามือเท้า โรคกระดูกสันหลังคด เเละบางรายรุนเเรงถึงขั้นมีผลต่อระบบปอดเเละหัวใจ หายใจไม่สะดวก เนื่องจากกระดูกที่คิดจำกัดการขยายตัวของปอด ทำให้หลังส่วนบน สะบัก เเละหัวไหล่ถูกยืดยาวออกหลังช่วงบนค่อมเเละงุ้มไปข้างหน้า ทำให้กระดูกคอยื่นไปด้านหน้า มีผลต่อเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงเเขน อาจทำให้มื้ออ่อนเเรงหรือเกิดอาการชาได้ นอกจากนี้เเล้วยังมีผลต่อหลอดเลือดที่จะไปเลี้ยงสมอง เพราะถ้ากระดูกคอผิดรูป จะทำให้กล้ามเนื้อคอเกร็ง จำกัดการไหลเวียนเลือดที่ไปเลี้ยงสมองเป็นสาเหตุของอาการปวดศีรษะ หรืออาจทำให้เป็นไมเกรนเรื้อรังได้
การนอน
สำหรับการนอนถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ทำให้โครงสร้างร่างกายของเรานั้นเสียสมดุลมากที่สุดค่ะ นั่นก็เพราะว่าในเวลา 6 – 8 ชั่วโมง หากคุณนอนในท่าที่ผิดไปตลอดเเล้วล่ะก็มันก็จะส่งผลต่อกระดูก กล้ามเนื้อ ข้อต่อ การไหลเวียนเลือด เส้นประสาท น้ำเหลือง ระบบไหลเวียนที่ต้องหล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกาย ตื่นมาเเล้วมีอาการปวดหัวไหล่ ปวดคอ ปวดศีรษะ ชามือ ชาเท้า ปวดหลังรู้สึกเพลีย ไม่สดชื่น รู้สึกเหมือนนอนไม่พออยู่ตลอดเวลานั่นเองค่ะ
การหิ้วของด้วยนิ้วมือ
คุณพ่อบ้านเเม่บ้านทั้งหลายเวลาไปจ่ายตลาด เเล้วได้ถุงพลาสติกมาก็เอามาหิ้วไว้ที่ตรงตามข้อมือนี่ยังไม่นับว่าน้ำหนักของมันจะสักเเค่ไหน เเต่รู้หรือไม่ค่ะว่าการใช้นิ้วมือหิ้วของหนักบ่อยๆ จะมีผลทำให้มีผังผืดยึดตามข้อนิ้วมือ เพราะกล้ามเนื้อมือเป็นกล้ามเนื้อมัดเล็ก มีหน้าที่หลักก็คือ ใช้หยิบจับสิ่งที่ไม่หนัก หากต้องใช้จับหรือหิ้วหนักๆจะทำให้เส้นเอ็นมีการเสียดสีเเละเกิดผังพืดได้ในที่สุด ยิ่งหากหิ้วหนักมากๆ เเล้วจะทำให้รั้งกล้ามเนื้อมัดอื่นๆเเละเกี่ยวโยงไปถึงกระดูกคอ ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งมากกว่าปกติมีผลต่อการทรุดของกระดูกเเละกดทับเส้นประสาทได้ หรือมักทำให้เกิดอาการนิ้วล็อค
เชื่อว่ามาถึงตรงนี้คุณผู้อ่านทั้งหลายน่าจะพอทราบเเล้วนะคะว่า พฤติกรรมในการใช้ชีวิตของคุณไม่ว่าจะเป็นการเดิน ยืน นั่ง นอน หรือเเม้เเต่การหิ้วของ หากคุณปฏิบัติในท่าทางที่ไม่ถูกต้องก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราได้เหมือนกัน เพราะข้อต่อที่งอในส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น หลังค่อม ห่อไหล่ ข้อต่อจะต้องรองรับน้ำหนักของร่างกายมากกว่าข้อต่อที่เหยียดตรง ทำให้เกิดการเสื่อมโทรมของข้อต่อเร็วขึ้น จึงเกิดอาการปวดตามข้อ เเละกล้ามเนื้อต้องทำงานหนัก เพราะมันเกิดการเกร็งอยู่ตลอดเวลา ลองมาปรับอิริยาบถต่างๆในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการปรับท่านั่งเมื่อต้องทำงาน ยืนด้วยการลงน้ำหนักทั้ง 2 ขา นอนในท่านอนหงายถือเป็นท่านอนที่ถูกต้องมากที่สุด มาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันสักนิดเถอะค่ะ เพื่อสุขภาพที่ดีของเราเองนะคะ
ที่มา: ขอบคุณข้อมูล https://www.you-health.net/
